เด็กๆมาถึงฝรั่งเศสในช่วงปิดภาคฤดูร้อนและเป็นช่วงที่โรงเรียนปิดสนิทจริงๆ..เพราะที่นี่เจ้าหน้าที่ทางการศึกษาจะทำงานหลังจากปิดภาคเรียนฤดูร้อนประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครองได้มาติดต่อเกี่ยวกับเรื่องเรียน แต่เด็กๆมาหลังจากช่วง 2 สัปดาห์นี้แล้วผู้เขียนจึงขอใช้คำว่าว่าปิดสนิทจริงๆ..อิอิ.. เพราะไม่มีใครอยู่ที่โรงเรียนเลย ฉะนั้นพวกเราจึงต้องรอโรงเรียนเปิดเทอมในวันที่ 1 กันยายนจึงเริ่มดำเนินการติดต่อกับ "Espace Senghor Montprllier" ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการจัดการศึกษาให้กับเด็กต่างชาติของเมืองมงต์เปลิเยร์และหน่วยงานนี้อยู่ในโรงเรียนระดับมัธยมต้น Collège Les Aiguerelles และเป็นหน่วยงานที่คุณสามีได้ขอใบลงทะเบียนเรียนโรงเรียนในประเทศฝรั่งเศสของเด็กๆซึ่งเป็นเอกสารใช้ประกอบในการขอวีซ่า และการติดต่อกับโรงเรียนที่นี่ใช้ระบบนัดหมายค่ะ ไม่ใช่การเดินเข้าไปติดต่อฉะนั้นพอโรงเรียนเปิดเทอมคุณสามีได้โทรนัดเพื่อขอนำเด็กเข้าไปติดต่อเรื่องเรียน ซึ่งเราได้รับการนัดหมายให้พาเด็กไปพบ อีก 2 สัปดาห์ถัดไปและเป็นการนัดหมายในช่วงบ่าย
ภาพของหน่วยงาน"Espace Senghor Montprllier"ที่ผู้เขียนไปติดต่อที่เรียนให้ลูกๆและอยู่ภายในโรงเรียน Collège Les Aiguerelles (ภาพจากhttp://www.clg-aiguerelles-montpellier.ac-montpellier.fr/) |
เมื่อถึงเวลานัดหมายพวกเราพาเด็กๆไปพบตามนัด ซึ่งไม่ต้องรอเพราะที่นี่เวลานัดถือว่าสำคัญมาก ซึ่งถ้าหากนัดหมายกับเราแล้วเวลาที่นัดไว้คือเวลาของเราเลยค่ะ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ทำการซักประวัติเกี่ยวกับข้อมูลของเด็กและเทียบระดับการศึกษาของไทยกับฝรั่งเศส ซึ่งการแบ่งระดับการศึกษาของไทยกับฝรั่งเศสก่อนระดับอุดมศึกษาเรียน 12 ปีเหมือนกัน แต่มีการแบ่งช่วงระดับชั้นที่ต่างกันคือประเทศไทยแบ่งเป็น 6:3:3 ส่วนการศึกษาของฝรั่งเศสแบ่งช่วงระดับชั้นเป็น 5:4:3 กล่าวคือประเทศไทยเรียนระดับประถมศึกษา 6 ปี, เรียนมัธยมศึกษาระดับต้น 3 ปีและระดับมัธยมปลาย 3 ปี ส่วนการศึกษาของฝรั่งเศสแบ่งช่วงระดับชั้นเป็น 5:4:3 คือ
1.ระดับประถมศึกษา( Enseignement du premier degré) ซึงเรียกโรงเรียนระดับนี้ว่าL'école élémentaire ใช้เวลาเรียน 5 ปี คืออายุ 6-11 ปี
2.ระดับมัธยมศึกษา(Enseignement du second degré)ตอนต้นเรียน 4 ปี อายุ 11-15 ปีและเรียกโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นต้นว่า Collège
3.ระดับมัธยมศึกษา(Enseignement du second degré)ตอนปลายเรียน 3 ปี อายุ 15-18 และเรียกโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาปลายว่า Lycée
ฉะนั้นลูกชาย(น้องคูณ)ที่เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากเมืองไทยแล้วจึงเทียบได้ว่าน้องคูณได้เรียนจบระดับ Collège ของที่นี่แล้ว และกำลังจะเข้าเรียนในโรงเรียนระดับ Lycée ซึ่งเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษากับผู้เขียนเข้าใจตรงกัน ส่วนน้องข้าวหอมที่เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 1จากไทยจึงเปรียบเหมือนเรียนอยู่ในระดับ Collège และเรียนจบปีที่ 2 ของระดับ Collège ซึ่งเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาได้พูดสรุปเกี่ยวกับระดับชั้นการเรียนของน้องข้าวหอมเป็นฝรั่งเศสว่า "Cinquième" ซึ่ง Cinquième แปลเป็นภาษาไทยว่าลำดับที่ 5ทำให้ผู้เขียน"อยากฟังซ้ำ" เพราะคิดว่าฟังผิด..อิอิ..เนื่องจากน่าจะได้ยินคำว่าลำดับที่ 2 หรือถ้านับปีการศึกษาที่เรียนต่อกันมาเรื่อยๆแบบอเมริกาก็น่าจะเป็นลำดับที่7หรือการเรียกเกรด 7แบบของอเมริกา แต่นี่กลับได้ยินลำดับที่ 5 ผู้เขียนจึงไม่ตอบว่า"oui" ซึ่งแปลว่า"ใช่ " แต่ทำหน้าเหว่อแบบที่เรียกว่า "งงอ่ะ"ลูกสาวช้านจบม.1 ทำไมมาเทียบเป็นป.5ที่นี่ล่ะ หรือการสื่อสารมันผิดพลาดเจ้าหน้าที่อาจสับสนกับภาษาฝรั่งเศสปนอังกฤษสำเนียงไทยของเรา คุณสามีจึงรีบตอบ oui แทนและส่งสายตามาบอกผู้เขียนประมาณว่าที่เจ้าหน้าที่พูดนะถูกแล้ว(มันจะถูกได้ยังไงเดี๋ยวให้กลับบ้านก่อนเถอะ..แม่จะหาข้อมูลให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย) พอกลับมาบ้านผู้เขียนนั่งหัวฟูหน้าคอมพิวเตอร์เพื่อหาข้อมูล และตรงไหนที่ไม่เข้าใจหรือต้องการรู้อะไรเพิ่มเติมก็ถามคุณสามีๆก็ใจดีตอบให้ทุกประเด็น ซึ่งผู้เขียนสรุปและเทียบกับการจัดระดับการศึกษาของไทยกับของฝรั่งเศสได้ดังนี้ค่ะ (ผู้เขียนได้เขียนถึงการเรียกชั้นเรียนในระดับอนุบาลด้วยถึงแม้ว่าการเรียนระดับนี้ไม่ได้เป็นการศึกษาภาคบังคับเช่นเดียวกับของไทยเราแต่ผู้เขียนเห็นว่าในข้อมูลที่อ่านมีการเขียนถึงการศึกษาระดับอนุบาลในผังการจัดระดับการศึกษาเลยใส่ข้อมูลส่วนนี้มาด้วย)
(ข้อมูลhttp://media.eduscol.education.fr/file/dossiers/50/5/enseignement_scolaire_VF_135505.pdf)
ไทย ฝรั่งเศส
*การศึกษาระดับประถมศึกษา * L'Enseignement du premier degré
ชั้นอนุบาลเรียน 3 ปี École maternelle เรียน 3ปี(อายุ 3-6ปี)อนุบาล 1 Petite section
อนุบาล 2 Moyen section
อนุบาล 3 Grande section
*ระดับประถมศึกษา * L' École élémentaire
เรียน 6 ปี เรียน 5ปี (อายุ 6-11ปี)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 Cours Préparatoire ( CP)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 Cours élémentaire 1ére année (CE1) :1ére หมายถึงลำดับที่ 1
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 Cours élémentaire 2e année (CE1) :1ére หมายถึงลำดับที่2ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 Cours Moyen 1ére année (CM1)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 Cours Moyen 2e année (CM2)
*การศึกษาระดับมัธยมต้น *L'enseignement secondaire (Collège)
เรียน 3 ปี เรียน 4 ปี(อายุ 11-15ปี)
มัธยมศึกษาปีที่1 5e (Cinquième)หมายถึงลำดับที่ 5
มัธยมศึกษาปีที่2 4e (Quatrième)หมายถึงลำดับที่ 4 มัธยมศึกษาปีที่3 3e (Troisième)หมายถึงลำดับที่ 3
*การศึกษาระดับมัธยมปลาย *L'enseignement secondaire (Lycée )
เรียน 3 ปี เรียน 3 ปี(อายุ 15-18ปี)
มัธยมศึกษาปีที่ 4 Seconde หมายถึงลำดับที่ 2
มัธยมศึกษาปีที่ 5 Première หมายถึงลำดับที่ 1
มัธยมศึกษาปีที่ 6 Terminaleหมายถึงสุดท้าย
(มาถึงตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมสาวน้อยของเราที่จบชั้นม.1จากบ้านเรามาอยู่นี่เรียกว่าระดับที่ 5 ที่ฝรั่งเศสพอเข้าเรียนระดับมัธยมต้นการนับชั้นปีเป็นการนับถอยหลังซะงั้น..เลยทำให้ผู้เขียนงงซะตั้งนาน....แล้วผู้เขียนก็ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไรน่า " โง่ย่อมมาก่อนฉลาดเสมอ"..อิอิ)
นักเรียนที่นี่เมื่อเรียนจบระดับ Collège แล้วทุกคนจะต้องสอบให้ได้ประกาศนียบัตร BEPC (Brevet d' études premaier cycle) ซึ่งเป็นประกาศนียบัตรแห่งชาติเพราะเป็นการสอบที่ใช้ข้อสอบกลางของรัฐจึงเป็นข้อสอบเดียวกันทั้งประเทศ ซึ่งที่นี่ผลการสอบนี้นับว่าสำคัญในการเลือกเรียนต่อในระดับมัธยมปลาย(Lycée) เพราะในการเข้าเรียนต่อระดับ Lycée ครู ผู้ปกครอง และนักเรียนจะมาพิจารณาร่วมกันว่านักเรียนควรเรียนต่อมัธยมปลายในสายไหน โรงเรียนอะไรโดยใช้ผลการสอบประกาศนียบัตร BEPCกับผลการเรียนของเด็กในระดับ Collège ในระยะเวลา4 ปีที่ผ่านมา มาประกอบการพิจารณาด้วย เมื่อตกลงกันได้แล้วทางโรงเรียนCollègeจะเป็นผู้ทำเอกสารติดต่อไปยังโรงเรียน Lycée ที่สรุปว่าเด็กควรจะไปเข้าเรียน ข้อมูลนี้คุณสามีเล่าให้ฟังถึงตอนนำบุตรสาวที่เกิดจากภรรยาชาวฝรั่งเศส (ภรรยาชาวฝรั่งเศสเสียชีวิตไปแล้ว)เข้าเรียนในระดับ Lycée ผู้เขียนว่าระบบอย่างนี้ก็ดีนะ รับรองว่าไม่มีข่าวผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมดังรับเงินใต้โต๊ะเพื่อรับเด็กเส้นเข้าเรียน..อิอิ..แต่ถ้าผู้ปกครองประสงค์จะนำลูกเข้าเรียนโรงเรียนเอกชนก็ได้ แต่ต้องจ่ายค่าเทอมเอง ซึ่งค่าเทอมของโรงเรียนเอกชนที่นี่ค่อนข้างแพงแต่มีระบบการเรียนการสอนที่ดี ซึ่งลูกสาวของสามีเรียนระดับ Lycée ในโรงเรียนเอกชน
ในการเรียนระดับมัธยมปลายหรือ Lycée จะแบ่งโรงเรียนออกเป็น 3 ระบบคือ (ข้อมูลจากhttps://fr.wikipedia.org/wiki/Enseignement_secondaire)
1. Lycée d’enseignement général โรงเรียนสายสามัญ ซึ่งจะมีการศึกษาด้านวรรณกรรม (ใช้คำว่า littéraire ), วิทยาศาสตร์. เศรษฐกิจ และสังคม
2. Lycée d’enseignement technologique โรงเรียนสายเทคโนโลยี
3. Lycée Professionnel โรงเรียนสายอาชีพ
เมื่อนักเรียนระดับ Lycée เรียนจนจบระดับ Terminale แล้วในการเข้าเรียนต่อระดับอุดมศึกษาของที่ฝรั่งเศสสิ่งที่สำคัญคือการสอบให้ได้ประกาศนียบัตร BAC(Baccalauréat)แยกตามสายสามัญ (Baccalauréat général) /สายเทคโนโลยี (Baccalauréat technologique)/สายอาชีพ(Baccalauréat professionnel)ซึ่งเทียบเท่าวุฒิมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในประเทศไทยแต่ต่างกันที่ไม่ใช่เป็นประกาศนีบัตรของสถานศึกษาอย่างบ้านเราแต่เป็นประกาศนียบัตรแห่งชาติที่ได้มาจากผลการสอบทั่วไปโดยข้อสอบกลางของรัฐ ซึ่งนับว่าเป็นการวัดระดับความรู้ของเด็กมัธยมปลายในมาตรฐานเดียวกันในแต่ละสายไม่ว่าจะเป็นสายสามัญ, สายทางเทคโนโลยีหรือสายวิชาชีพ ฉะนั้นคะแนนที่ได้จากการสอบประกาศนียบัตร BAC(Baccalauréat) จึงเป็นดัชนีชี้วัดได้ว่าเด็กมีความรู้ระดับมัธยมปลายในสาขาต่างๆอยู่ในระดับไหนของประเทศ และเด็กที่จบมัธยมปลายจากจากประเทศอื่นต้องการศึกษาต่อระดับดับปริญญาตรีในประเทศฝรั่งเศส จำเป็นต้องวัดระดับความรู้ภาษาฝรั่งเศสให้ได้ก่อน
การศึกษาภาคบังคับของฝรั่งเศสอยู่ระหว่างอายุ 6-16 ปี และไม่มีการสอนเกี่ยวกับศาสนาใดๆในโรงเรียนนอกจากนั้นยังห้ามไม่ให้มีการแสดงออกที่ชัดเจนทางศาสนา เช่นห้ามใส่หมวกคลุมฮิญาบแบบอิสลามในโรงเรียนเนื่องจากการความเป็นกลางทางศาสนา และหากต้องการทราบเกี่ยวกับเสรีภาพในการนับถือศาสนาของประเทศฝรั่งเศสที่เขียนเป็นภาษาไทยมีบางท่านเขียนเป็นภาษาไทยหาอ่านได้ในเว็บไซต์นี้ค่ะ(http://www.pub-law.net/Publaw/view.aspx?id=765)
การศึกษาภาคบังคับของฝรั่งเศสอยู่ระหว่างอายุ 6-16 ปี และไม่มีการสอนเกี่ยวกับศาสนาใดๆในโรงเรียนนอกจากนั้นยังห้ามไม่ให้มีการแสดงออกที่ชัดเจนทางศาสนา เช่นห้ามใส่หมวกคลุมฮิญาบแบบอิสลามในโรงเรียนเนื่องจากการความเป็นกลางทางศาสนา และหากต้องการทราบเกี่ยวกับเสรีภาพในการนับถือศาสนาของประเทศฝรั่งเศสที่เขียนเป็นภาษาไทยมีบางท่านเขียนเป็นภาษาไทยหาอ่านได้ในเว็บไซต์นี้ค่ะ(http://www.pub-law.net/Publaw/view.aspx?id=765)
มาถึงตอนนี้ผู้เขียนเข้าใจเกี่ยวกับการเรียกระดับชั้นการศึกษาของฝรั่งเศสแล้วค่ะ และทางโรงเรียนได้รับเรื่องของน้องคูณไว้และนัดสอบวิชาคณิตศาสตร์กับความรู้พื้นฐานภาษาฝรั่งเศสในอีก 2 สัปดาห์ถัดไป ซึ่งน้องคูณบอกว่าวิชาคณิตศาสตร์ทดสอบความรู้แบบใช้สัญญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ถึงแม้ไม่มีความรู้ด้านภาษาฝรั่งเศสก็สามารถทำข้อสอบได้ ถ้าหากเด็กเข้าใจเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ในเรื่องนั้นๆเช่น สมการ การบวก-ลบ-คูณ-หาร เศษส่วน ซึ่งการตอบคำถามเป็นช่องว่างให้เด็กเติมตัวเลขหรือเครื่องหมายต่างๆตามช่องที่กำหนดให้ เลขแต่ละข้อมีหลายช่องให้เติม ส่วนภาษาฝรั่งเศสเริ่มทดสอบโดยให้อ่านพยัญชนะภาษาฝรั่งเศส และอ่านคำง่ายๆเป็นคำๆ เมื่อเด็กอ่านไม่ได้จะให้เด็กหยุดอ่าน ถ้าเด็กคนไหนอ่านได้จะให้อ่านเป็นประโยคยาวๆ น้องคูณไม่ได้เรียนภาษาฝรั่งเศสมาก่อนแต่ผู้เขียนได้สอนให้ออกเสียงพยัญชนะและสระภาษาฝรั่งเศสมาบ้าง น้องคูณจึงอ่านได้แต่คำที่ง่ายๆเท่านั้น หลังจากสอบได้ 1 สัปดาห์ ทางเจ้าหน้าที่ได้นัดให้มาทำเอกสารเกี่ยวกับการมอบตัวเด็กเข้าเรียนและเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่ต้องห่วงเรื่องโรงเรียนของน้องคูณ รับรองว่ามีที่เรียนแน่นอนเมื่อได้โรงเรียนสำหรับน้องคูณแล้วจะโทรแจ้งให้ทราบซึ่งต้องใช้เวลานานหน่อยเพราะมีเด็กต่างชาติที่เข้ามาอยู่เมืองนี้เยอะมาก และเจ้าหน้าที่ได้ขี้ให้ดูเอกสารกองเบ้อเร่อบนโต๊ะ..อืมม์..เยอะจริงแฮะ..หุหุ..และก็ใช้เวลานานอย่างที่บอกจริงเพราะพวกเรารอประมาณเดือนกว่าๆ ถึงได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ให้น้องคูณไปเข้าเรียนซึ่งเป็นวันที่ 3 พย. 58 และเป็นวันเปิดภาคเรียนครั้งที่ 2 สรุปแล้วน้องคูณรอนานเกือบ 4 เดือนจึงได้เข้าเรียนเพราะช่วงเกือบ 2 เดือนแรกที่น้องคูณมาฝรั่งเศสเป็นช่วงปิดเทอมจึงไม่สามารถติดต่อกับทางศูนย์จัดการศึกษาเพื่อเด็กต่างชาติได้ และช่วงเกือบ 2 เดือนหลังเป็นช่วงติดต่อกับทางศูนย์จัดการศึกษาและเป็นช่วงที่ทางศูนย์ใช้เวลาในการดำเนินการจัดหาโรงเรียนให้กับน้องคูณ
ตอนนี้ผู้เขียนเรียกระดับชั้นต่างๆของการศึกษาที่ฝรั่งเศสแบบไม่งงแล้ว....และในบทต่อไปจะเขียนเกี่ยวกับ การจัดการศึกษาให้กับเด็กต่างชาติในฝรั่งเศส ซึ่งในกรณีของน้องข้าวหอมค่อนข้างยุ่งยากแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีด้วยความพยายามของสามีและสามารถมาเข้าเรียนหลังพี่คูณเพียงแค่ 2-3 ซึ่งจะยุ่งยากอย่างไรติดตามได้ในบทถัดไปค่ะ
ภาพศาลากลางของแคว้นล็องก์ด็อก-รูซียง(Hotel de Région de Languedoc-Roussillon) อยู่ที่เมืองมงต์เปลิเยร์(Montpellier )จังหวัดจังหวัดเอโร( Herault)นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่ผู้เขียนชอบมากแห่งหนึ่ง |