วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

La galette des rois ขนมแห่งกษัตริย์

โฉมหน้าของขนมแห่งกษัตริย์


Galette des Rois แปลว่า "ขนมแห่งกษัตริย์" เพราะว่า Galette แปลว่าขนม และ Rois แปลว่ากษัตริย์ ขนมนี้จะมีขายในเทศกาลที่เรียกว่า l'epiphanie เป็นเทศกาลของคริสต์ศาสนา จัดขึ้นในวันที่ 6 มกราคม หรือสองอาทิตย์หลังจากวันคริสตมาสโดยประมาณ เพื่อเฉลิมฉลองเหตุการณ์ที่นักบุญได้ไปเยี่ยมพระเยซูเมื่อตอนยังเป็นทารก และในฝรั่งเศสขนมนี้ก็จะมีขายตลอดเดือนมกราคม และที่นพฬวรรณกล่าวถึงขนมนี้เพราะนพฬวรรณเดินทางมาฝรั่งเศสช่วงเทศกาลนี้พอดี

 เจ้าขนมนี้เป็นรูปกลมแบนๆทำจากแป้งพัฟรสชาตินุ่มนวลสอดไส้ด้วยถั่วอัลมอลล์ ซึ่งก็ดูธรรมดาแต่ความพิเศษที่แตกต่างจากขนมอื่นๆ คือนอกจากมีขายเฉพาะเดือนมกราคมแล้วขนมนี้จะขายพร้อมกับมงกุฎกระดาษสีทองหนึ่งอัน และขนมนี้มักจะซื้อมาทานกันในครอบครัวหลายๆคน

เมื่อจะทานขนม ก็จะตัดขนมเป็นส่วนๆให้เท่ากับจำนวนสมาชิกในครอบครัว แล้วให้สมาชิกคนที่อายุน้อยที่สุด (ที่พูดได้) ลงไปใต้โต๊ะ แล้วบอกว่าให้ขนมชิ้นแรกแก่ใคร ชิ้นที่สองแก่ใคร เช่น ให้ชิ้นแรกแก่คุณปู่ ชิ้นที่สองให้คุณแม่ ฯลฯ ที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะว่ามันมีความลับซ่อนอยู่ในขนมคะ ซึ่งก็คือของพิเศษที่อาจเป็นตุ๊กตาที่ทำด้วยเซรามิกหรือพลาสติกบางครั้งก็อาจจะเคลือบทอง (เค้าว่าอย่างงั้น) ใครหยิบได้ชิ้นที่มีของนี้ซ่อนอยู่ข้างใน ก็ถือว่าเป็นผู้ชนะได้สวมมงกุฎกลายเป็นกษัตริย์ไปเลย....

ข้อมูลข้างบนนั้นเป็นข้อมูลที่สืบค้นได้ และสำหรับนพฬวรรณได้เจอกับเจ้าขนมนี้ตอนที่ญาติของสามีจัดฉลองปีใหม่ ญาติก็ตัดขนมเป็นชิ้นๆแล้ววางตามโต๊ะ ทีแรกนพฬวรรณไม่ทราบที่มาของขนมจะเปลี่ยนขนมของตัวเองกับของสามีเพราะขนมของสามีเล็กกว่า (คือไม่อยากทานขนมเยอะอ่ะ กลัวอ้วน..คริ คริ) ญาติรีบบอกห้ามเปลี่ยนแล้วญาติก็อธิบายให้ฟังถึงขนมนี้ แล้วพวกเราก็ทานพร้อมๆกันและลุ้นว่าใครจะได้ของพิเศษที่ซ่อนอยู่ในขนม..และผลออกมาขนมชิ้นที่นพฬวรรณทานมีตุ๊กตาเซรามิคเป็นม้าตัวเล็กๆซ่อนอยู่ (ถ้าเป็นทองซ่อนอยู่จะดีมากเลย..คริ คริ) ดังนั้นงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ในคืนนั้นนพฬวรรณจึงได้สวมมงกุฎเป็นราชินีไปเลย...เย้..เย้..



หลังจากได้มงกุฏนางงามเอ้ยมงกุฎแห่งกษัตริย์ของขนม Galette des Rois

 แต่พออาทิตย์ถัดไปถูกเพื่อนที่อยู่อีกเมืองหนึ่งเชิญไปทานอาหารกลางวันที่บ้านเพื่อนก็มีเจ้าขนมนี้อีกแต่ที่เมืองนี้ใครได้ของพิเศษนอกจากเป็นกษัตริย์แล้วต้องออกไปซื้อขนมอีกชิ้นหนึ่งมาเพิ่ม อุ้ย..ถ้างั้นงานนี้นพฬวรรณไม่อยากเจอของพิเศษในขนมนะ..อิอิ..และก็มีเรื่องเล่ากันสนุกๆว่าในเมืองนี้สงสัยคนทำขนมลืมใส่ของพิเศษลงไปในขนมเพราะไม่ค่อยมีใครบอกว่าตัวเองได้ของพิเศษ แต่ว่าช่วงเทศกาลนี้คนไปหาหมอฟันกันเยอะเพราะคนไข้ฟันหักเนื่องจากเคี้ยวของแข็งๆ..5555..และในงานนี้ไม่เห็นมีใครบอกเจอของพิเศษในขนมเลย..อิอิ..(นพฬวรรณก็ไม่เจอนะ พิสูจน์ได้ไม่มีฟันหักนะ..คร ิคริ)

ถ้าเพื่อนๆที่เมืองไทยอยากเห็นหน้าตาของขนมนี้ เท่าที่ค้นข้อมูลมาบางโรงแรมในกรุงเทพมีขายคะและขายเฉพาะเดือนมกราคมเหมือนที่ฝรั่งเศสเลยแต่ราคาไม่เหมือนกันคะที่เมืองไทยจะแพงกว่า ถ้าซื้อที่ฝรั่งเศสราคาประมาณณ 9 ยูโร ก็ประมาณ 500 บาท..ขนมราคาอย่างนี้เมื่อเทียบกับวัตถุดิบการปรุงนพฬวรณคิดว่าไม่ถูกนะคะ นพฬวรรณคิดว่าที่ราคาไม่ถูกเพราะเป็นขนมสำหรับเทศกาล แต่นพฬวรรณคิดว่าขนมนี้มีคุณค่าซึ่งน่าจะเรียกว่าขนมแห่งครอบครัวด้วยเพราะเป็นขนมนี้นับเป็นสื่อกลางในการสร้างกิจกรรมที่น่ารักและอบอุ่นในครอบครัว..และสุดท้ายนพฬวรรณขอแถมภาพสวยๆของนพฬวรรณและภาพแห่งความสุขและสนุกของนพฬวรรณในงานฉลองปึใหม่ 2558 กับครอบครัวของสามี







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น