 |
ขนมหม้อแกงถั่วที่นพฬวรรณทำไปรับประทานที่เรือWarrior 1912 |
ครั้งที่แล้วนพฬวรรณได้กล่าวถึงบ้านเรือนแพฝรั่งที่ดัดแปลงมาจากเรือบรรทุกสินค้า Péniche ซึ่งมีลักษณะท้องเรือแบนแต่มีข้อจำกัดคือไม่สามารถแล่นในท้องทะเลได้ แต่ในความเป็นจริงบ้านเรือนแพฝรั่งไม่ได้จำกัดอยู่ที่เรือนแพ (Péniche) เท่านั้น แต่บ้านเรือนแพฝรั่งบางลำ (ใช่คำว่าลำนะคะเพราะมีสภาพเป็นเรือ)อาจดัดแปลงมาจากเรือเดินสมุทรหรือบางลำดัดแปลงมาจากเรือรบในประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 (น่าสนใจใช่มั๊ยล่ะ..)
นพฬวรรณนับว่าโชคดีที่ได้รู้จักเจ้าของบ้านเรือนแพฝรั่งลำหนึ่ง เธอและคนรักของเธอไม่ใช่คนฝรั่งเศสแต่เป็นคนอังกฤษที่ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่ฝรั่งเศสและอยู่เมืองเดียวกับนพฬวรรณ เธอคนนี้เป็นเพื่อนที่เรียนภาษาฝรั่งเศสกับนพฬวรรรณซึ่งเธอนับเป็นเพื่อนที่ดีและเป็นเพื่อนคนแรกของนพฬวรรณในฝรั่งเศสที่เป็นชาวต่างชาติ
เมื่อเธอเห็นนพฬวรรณโพสต์เรื่อง Péniche บ้านเรือนแพฝรั่ง เธอจึงบอกว่าเธอก็อยู่ที่บ้านเรือนแพเช่นกัน และเรือที่อยู่เป็นเรือสมัยสงครามโลก เท่านั้นแหละนพฬวรรณตาโตด้วยอาการอยากรู้อยากเห็น..อิอิ..จึงขอไปเยี่ยมเธอที่บ้านเรือนแพซึ่งเธอยินดีมากนพฬวรรณเลยขอทำอาหารไทยกับขนมไทยไปทานมื้อกลางวันกับเธอที่บ้านเรือนแพของเธอ ซึ่งนพฬวรรณทำต้มข่าไก่กับขนมหม้อแกงไปคะ..ดีใจจังเธอ (เธอชื่อFiona Garton ต่อขอเขียนชื่อเธอเป็นภาษาไทยว่า "ฟีโอน่า"นะคะ) และคนรักของเธอ(ชื่อDavid Askem ต่อขอเขียนชื่อเธอเป็นภาษาไทยว่า"เดวิด" นะคะ ) ชอบอาหารไทยและเธอทั้งสองชมว่าอร่อยคะ..(เป็นปลื้ม อาหารไทยไม่แพ้ชาติไดในโลก..อิอิ..)
 |
ต้มข่าไก่ที่นพฬวรรณทำไปให้เพื่อนทาน เพื่อนยกโป้งให้เลยคะ(เสน่ห์อาหารไทย..อิอิ..) |
 |
นพฬวรรณคิดว่าจะตักต้มข่าไก่ใส่ชามเล็กๆแล้ววางในจานแต่เพื่อนไม่มีชามเล็กๆ
งั้นจานจะดูโล่ง ด้วยไหวพริบนพฬวรรณเลยเอาแตงกวากับมะเขือเทศมาจัดจาน ใช้ได้ใช่ป่ะ..อิอิ..
| |
|
ตอนนี้ก็มาเริ่มที่ประวัติศาสตร์ของเรือเธอนะคะ เรือของเธอชื่อ "Warrior 1912" เป็นเรือรบราชนาวีของสหราชอาณาจักรที่มีความแข็งแกร่งมากและขับเคลื่อนโดยใช้ไอน้ำซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี 1912 และเข้าร่วมเป็นเรือรบทั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1และครั้งที่ 2 ซึ่งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ เริอลำนี้ได้เข้าร่วมในยุทธการดันเคิร์ก"Dunkirk" แต่คนฝรั่งเศสออกเสียง "ดังแคร็ก" (คนที่สนใจหรือศึกษาเกี่ยวกับสงครามโลกเมื่อเอ่ยถึงDunkirk จะร้องอ๋อทันที แต่นพฬวรรณ มาร้องอ๋อทีหลังตอนมาศึกษาเพิ่มเติม ตอนเพื่อนพูด "Dunkirk" นพฬวรรณ งง หลายแป๊บเลยคะ..อิอิ) ซึ่งยุทธการดันเคิร์กเป็นหนึ่งในศึกครั้งใหญ่ใน
สงครามโลกครั้งที่สองระหว่างวันที่
26 พฤษภาคม จนถึงวันที่
4 มิถุนายน พ.ศ.2483 (ค.ศ.1940)ในขณะนั้นกองกำลังขนาดใหญ่ของ
สหราชอาณาจักรและ
ฝรั่งเศสถูกล้อมไว้โดยหมู่ยานเกราะ
เยอรมัน ซึ่งครอบครองอาณาบริเวณตลอดชายฝั่งช่องแคบที่เมืองคาเลส์ ทหารสัมพันธมิตรกว่า 330,000 นายสามารถอพยพผ่านทางทะเลซึ่งเรือที่สามารถอพยพนายทหารออกมาได้คือเรือจำนวนมากประกอบไปด้วยเรือจับปลาและเรือเก่าที่ถูกซ่อมแซมใหม่ เรือนาวิกพานิชย์และเรือรบราชนาวี ซึ่งต่างเดินเรือไประดมพลกันที่เมืองเชียร์เนสแล้วเรือทุกลำได้มุ่งหน้าไปยังดันเคิร์ก(Dunkirk) และเรือพวกนี้ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่า"The little ships of Dunkirk"และหนึ่งในนั้นคือ "Warrior 1912"
.jpg) |
รูปโฉมของบ้านเรือนแพที่ดัดแปลงมาจากเรือ Warrior 1912 |
 |
หนังสือที่นพฬวรรณถือคือThe little ships of Dunkirk และข้างในมีการกล่าวถึงเรือWarrior 1912 และจุดที่นั่งเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ชั้นล่างของเรือ |
|
|
|
|
|
|
 |
ประตูเข้าบ้านเรือนแพ Warrior 1912 ถ่ายรูปกับเจ้าของเรือ คุณฟีโอน่าและคุณเดวิด |
 |
ส่วนบริเวณหัวเรือ และตรงบริเวณโต๊ะนั่งเล่นกินลมชมวิวเจ้าของบอกว่าในอดีตเป็นที่ตั้งของปืนใหญ่ที่ยิงต่อสู้ข้าศึก..บรื้อสสสส |
ฟังเรื่องของเรือมาถึงตรงนี้แล้วนพฬวรรณภูมิใจแทนเพื่อนที่ได้เป็นเจ้าของเรือในประวัติศาสตร์ลำนี้ และเพื่อนก็ภูมิใจมากด้วยเธอทั้งสองให้นพฬวรรณดูหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวของ "The little ships of Dunkirk" และให้เอกสารเกี่ยวกับเรือลำนี้มาอ่านด้วย(ถ้าเพื่อนๆต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือลำนี้ก็ถามกันมาได้นะคะ) รวมถึงกางแผนที่ให้ดูว่า Dunkirk อยู่ตรงไหน ซึ่งนพฬวรรณคิดว่าตัวเองก็โชคดีที่มีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องเรือ "Warrior 1912" และที่สำคัญมีโอกาสมาเยี่ยมเยือนเรือลำนี้โดยนับว่าเป็นประสบการณ์ที่เงินก็ซื้อไม่ได้เพราะเจ้าของเรือไม่ได้เปิดให้ชมเรือแบบธุรกิจแต่นพฬวรรณมีโอกาสเพราะเธอชอบนพฬวรรณ(คนน่ารักนิสัยดีก็อย่างนี้แหละ..คริ คริ) เพื่อนสามีที่เป็นคนฝรั่งเศสเห็นนพฬวรรณโพสต์รูปนพฬวรรณกับเรือนี้ในเฟสบุคเธอยังได้เขียนแสดงความคิดเห็นว่า" Quelle chance vous avez " หมายถึงประมาณว่า" เธอช่างมีโอกาสที่ดีอะไรเช่นนี้" มาถึงตอนนี้ทุกคนคงอยากรู้เกี่ยวกับเจ้าของเรือแล้วใช่ม่ะ..
เจ้าของเรือคนแรกเคยเป็นกัปตันของเรือลำนี้แล้วเรือก็ขายตกทอดกันมาจนถึงคุณเดวิด (ก็เพื่อนของนพฬวรณไง) ซึ่งมีโอกาสได้ซื้อเรือลำนี้และเป็นผู้ครอบครองลำดับที่ 5 ถามไถ่ราคาคุณเดวิดก็บอกว่าซื้อมาไม่แพงแค่ 150,000 ยูโร ประมาณ 6 ล้านบาท (แค่่ 6 ล้านบาทนีนะ..อิอิ) ถ้าให้ตีราคาตอนนี้เรือลำนี้ก็มีค่าประมาณ 200,000 ยูโร ประมาณ 8ล้านบาท (ราคานี้เรามาซื้อบ้านที่เมืองไทยได้หลังงามๆเลยล่ะ ..หุ หุ. ) เพราะหลังจากซื้อมาเพื่อนก็ปรับปรุงและตกแต่งหมดไปหลายตังค์เพราะตกแต่งเป็นแนวโบราณ
(antique) ของประดับบ้านบางอย่างหายากและราคาแพง แล้วนพฬวรรณก็เหลือบไปเห็นโคมไฟบ้านเค้าปั๊มว่า
whitestar liverpoo ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตเรือไททานิคนั่นเอง และนพฬวรรณถ่ายรูปมาด้วยคะ
 |
โคมไฟนี้ผลิตจากบริษัท" whitestar liverpoo" ที่เป็นบริษัทเดียวกับที่สร้างเรือไททานิค (สังเกตุรูปให้ดีจะเห็นรอยปั๊มตัวอักษร "whitestar liverpoo" |
คุณเดวิดเป็นกัปตันเรือมาก่อนจึงชอบการใช้ชีวิตอยู่บนเรือและให้เหตุผลกับนพฬวรรณในการซื้อเรือมาทำบ้านก็เพราะเป็นคนชอบท่องเที่ยวและชอบสายน้ำ การมีบ้านเรือนแพแบบ bateau นี้คุณเดวิด สามารถแล่นไปตามแม่น้ำลำคลอง รวมถึงทะเลได้ และเหตุผลที่ไม่อยู่ที่ลอนดอน (เดิมคุณเดวิดและคุณฟีโอน่้า อยู่ที่ลอนดอนคะ) คุณเดวิด กล่าวว่าลอนดอนมีความเจริญแต่ผู้คนก็วุ่นวายไม่น่าอยู่ และที่นั่นไม่อนุญาติให้จอดเรือได้อย่างที่ฝรั่งเศส คุณเดวิดเคยเดินเรือไปพักที่ประเทศสเปน แต่เลือกที่จะปักหลักอยู่ที่ฝรั่งเศสเพราะฝรั่งเศสมีความเจริญและทันสมัยแต่ไม่วุนวายต่างจากสเปนที่ความเป็นอยู่ไม่ดีอย่างฝรั่งเศสแต่กลับมีความวุ่นวายจากนักท่องเที่ยว
การเดินทางของ "Warrior 1912" จากราชอาณาจักรสู่ฝรั่งเศส : จากการที่คุณเดวิด เคยเป็นกัปตันเรือมาก่อนและมีใบขับขี่เรือจึงขับเรือเองจากสหราชอาณาจักรมาสู่ฝรั่งเศสทาง English Channel และผ่านช่องแคบ La Manche มาสู่ตอนเหนือของฝรั่งเศสโดยใช้เวลาเดินทางในทะเลประมาณ 14 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็แล่นเรือมาตามแม่น้ำ ลำคลองในฝรั่งเศส เดินทางไปพักไปตามเมืองต่างๆ ซึ่งเป็นทริปการเดินทางที่มีความสุขและเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ในการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆในฝรั่งเศส และได้เดินทางมาถึงตอนใต้ของฝรั่งเศสโดยใช้เวลาประมาณ 2 เดือน นอกจากนั้นคุณเดวิด ยังบอกอีกว่า เรือนี่ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง เติมแก๊สเต็มถังสามารถเดินทางได้ประมาณ 30 วัน
 |
ห้องนอนที่แสนจะอบอุ่นเพราะติดฮิทเตอร์..อิอิ | |
มาถึงตอนนี้ก็เป็นหน้าที่สำรวจเรือของนพฬวรรณ : บ้านเรือนแพลำนี้มีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างเหมือนบ้านบนพื้นดิน ทุกห้องติดฮิทเตอร์ และมีเตาไฟแบบบ้านเมืองหนาวทั่วไปเมื่อเข้ามาในเรือจึงอุ่นเหมือนเราอยุ่บ้านปกติ และเรือไม่ค่อยโคลงเคลงเนื่องจากเรือจอดอยู่ในลำคลองจึงไม่ค่อยมีคลื่น เรือมี 2 ชั้น ชั้นล่างทำเป็นห้องนอน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่นหรือห้องอ่านหนังสือ 1 ห้อง ส่วนชั้นบนของเรือ ข้างหลังส่วนของคนขับจะเป็นห้องครัวซึ่งมีหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊ส ตู้เย็น ที่ล้างจาน ไมโครเวฟ และตู้เก็บแก้ว, จานรวมถึอุปกรณ์ต่างในครัว ถัดจากครัวก็เป็น โต๊ะอาหารและใช้รับแขกได้ในตัวส่วนด้านนอกอาคารที่เป็นหัวเรือคุณเดวิดบอกว่าแต่ก่อนเป็นที่ตั้งปืนใหญ่ไว้ยิงศัตรู(..บรื้อสสสส...)แต่ตอนนี้เป็นโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งเล่นกินลมชมวิว และการที่เป็นเรือรบมาก่อนก็ต้องมีนายทหารเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเป็นธรรมดา นพฬวรรณเลยแอบถามคุณฟีโอน่าว่าเคยเจอ"ผี" บ้างป่ะ เธอบอกว่าไม่เคยเจอและไม่เคยฝันร้ายด้วย เธออยู่ที่นี่แล้วมีความสุขดี (สงสัยไปเกิดกันหมดแล้วมั๊ง..แหะ แหะ)
 |
ห้องครัวมีอุปกรณ์ในการทำครัวแบบครบครัน |
 |
อีกหนึ่งห้องนอน |
 |
ห้องน้ำจัดได้น่ารักอ่ะ |
ระบบสาธารณูปโภคในเรือ : เรือนี้ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงเพื่อให้เรือเดินแต่เมื่อมาจอดที่ฝรั่งเศสนี้คุณเดวิดได้ขอต่อไฟใช้จากการไฟฟ้าของฝรั่งเศสและจ่ายค่าไฟเหมือนบ้านทั่วไป ส่วนน้ำก็ต่อจากประปาของเมืองนี้และจ่ายค่าน้ำเหมือนบ้านทั่วไป ส่วนรถยนต์ก็จอดบนฝั่งในพื้นที่ว่างไม่เสียค่าจอดรถและไม่เคยมีใครแถวนั้นรถหาย..ดีจังเป็นบ้านเราหน่อยไม่ได้ไม่ทันข้ามคืนก็หายแล้ว..เหอ เหอ..ส่วนการจอดเรือแบบนี้ต้องจ่ายค่าเช่าให้กับทางการฝรั่งเศสเป็นเงิน 600 ยูโร/ปี (ประมาณ 24,000 บาท)
 |
Santé (ซอง เต)พูดตอนชนแก้วดื่มกันคะ |
 |
ที่โต๊ะอาหารและเป็นโต๊ะรับแขกไปในตัว คนฝรั่งเศสจะพูด bonne apétit(บอนนา เป๊ปตี้) ก่อนทานอาหาร ประมาณว่า ขอให้ทานกันอย่างอร่อย |
 |
เจ้าของเรือน่ารักมากนำแผนที่มากางเพื่ออธิบายถึง Dunkirkและการเดินทางจากอังกฤษมาฝรั่งเศส |
จากการเยี่ยมชมบ้านเรือนแพ Warrior 1912 ในเวอร์ชั่นปัจจุบันและจากการพูดคุยกับเจ้าของทำให้
นพฬวรรณคิดว่าเจ้าของบ้านเรือนแพตัดสินใจอยู่บ้านเรือนแพเพราะความชอบและเป็นการทำตามความฝันและความสุขของตัวเองโดยไม่ได้นำความคิดของผู้อื่น มาเป็นกรอบกำหนดความต้องการของตัวเอง ที่นพฬวรรณกล่าวเช่นนี้เพราะทั้งคู่เป็นคนชนชั้นกลางที่ไม่ใช่มหาเศรษฐี คนชนชั้นกลางที่คิดแบบคนทั่วๆไปถ้ามีเงินอยู่ก้อนหนึ่งแล้วต้องการมีบ้านและมีเงินเพียงพอที่ซื้อบ้านได้ 1 หลังคงไม่นำเงินที่ตัวเองที่มีอยู่มาซื้อเรือในประวัติศาสตร์เพื่อมาทำเป็นบ้านหรอกใช่ป่ะ และในกรณีของเพื่อน นพฬวรรณไม่มั่นใจว่าเป็นวัตถุนิยมนะเพราะ ปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์คือการมีที่อยู่อาศัยและบ้านเรือนแพของเพื่อนก็เหมือนกับบ้านหลังหนึ่งแต่ต่างตรงที่ตั้งอยู่บนน้ำแทนตั้งบนพื้นดิน และภายในบ้านเรือนแพของเพื่อนก็เหมือนกับบ้านทั่วไปของคนที่นี่ไม่ได้มีอะไรที่บ่งบอกว่ามีอะไรที่มากกว่า เพียงแต่เลือกของตกแต่งบ้านเป็นของเก่าซึ่งนับว่ารสนิยมและความชอบของเขา ซึ่งถ้าจะตีความคำว่า"สังคมวัตถุนิยม" หมายถึงการที่ผู้คนไม่คิดอย่างอื่นนอกจากการสะสมความมั่งคั่งและแสวงหาสิ่งเสพปรนเปรอตน ถ้าในกรณีคนมีบ้านหลังงามหลายหลังแล้วยังมีซื้อบ้านทำเรือนแพอีกอันนี้นพฬวรรณคิดว่าเป็นวัตถุนิยมนะ..แต่นพฬวรรณก้ไม่ทราบนะว่าเพื่อนมีบ้านหลายหลังป่ะ..แหะ แหะ..
 |
สร้างภาพว่ารักสัตว์..อิอิ..เพื่อนบอกว่าแมวตัวนี้มาจากสเปน |
 |
และเจ้าตัวนี้เป็นสุนัขมาจากอังกฤษ |
สรุปแล้วจากการเยี่ยมชมบ้านเรือนแพของคนอังกฤษในเมืองฝรั่งเศสนี้นับเป็นวิถีชวิตใหม่ของชาวยุโรป ที่ทำตามความฝันและความชอบของตนเองโดยไม่ติดยึดกับความคิดเดิมๆที่บ้านต้องอยู่บนพื้นดินเท่านั้น(ต่างจากไทยนะคะเพราะบ้านเรือนแพไทยคนไทยในอดีตเป็นวิถีชีวิตที่สอดรับกับความผูกพันของสายน้ำ
เพราะชาวแพเหล่านี้ไม่ได้ใช้แพเป็นเพียงที่พักอาศัยแต่ยังเป็นที่สำหรับ
ประกอบอาชีพคือการเลี้ยงปลาในกระชังซึ่งทำสืบทอดกันมาหลายชั่วคน ซึ่งเรียกได้ว่าสายน้ำคือชีวิตของบ้านเรือนแพไทย) สุดท้ายนี้ก็ต้องขอบคุณคุณFiona Garton และคุณDavid Askem ที่เปิดโอกาสให้เยี่ยมชมบ้านเรือนแพ "Warrior 1912" รวมถึงให้ข้อมูลแบบเจาะลึก (ตอนเขียนบล็อกนี้มีความรู้สึกสนุกและตื่นเต้นกับข้อมูลทีสืบค้นมาได้เหมือนตอนทำ Case study (กรณีศึกษา) ส่งอาจารย์สมัยเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เลย..อิอิ..(ลิงค์ด้านล่างเป็นเฟสบุคของเรือ Warrior 1912 ที่เจ้าของคนปัจจุบันทำขึ้น ใครสนใจอยากรู้เกี่ยวเรือลำนี้มากขึ้นลิงค์เข้าไปชมกันได้เลยคะ)
https://www.facebook.com/pages/Warrior1912/275057235870625?fref=photo
 |
ภาพสวยๆที่ถ่ายจากเรือWarrior 1912 มองเห็นความสวยน้ำของท้องน้ำและเป็ดน้อยลอยน้ำ อย่างนี้อ่ะดิ ถึงมีบางคนชอบอยู่บ้านเรือนแพกัน |
|
 |
ขออวดหน่อยนะ ขนมหม้อแกงถั่วที่นพฬวรรณทำน่าทานมั๊ยอ่ะ..ฮิ้ว ฮิ้ว |
 |
ขนมหม้อแกงตอนยังไม่ได้ตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็ก หน้าตาสวยใช้ได้ม่ะ..อิอิ.. |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น